สวัสดีค่ะทุกคน^^ โพสต์นี้จะมาอธิบายขั้นตอนขึ้นเครื่องบินสำหรับมือใหม่ ที่สุวรรณภูมิในยุค New normal นะคะ
จะเป็นอย่างไรบ้างตามไปขึ้นเครื่องกันเลยค่า ^^
Vlog บินเดี่ยวเที่ยวภูเก็ต 1 วัน ไฟลท์ดีเลย์ทั้งขาไปและขากลับ!! >> https://www.youtube.com/watch?v=hrLQNHGZKUo
.
รีวิว พามือใหม่ขึ้นเครื่องบิน @ สุวรรณภูมิ ภายใน 3 นาที >> https://www.youtube.com/watch?v=_-9Qn7u4BXs&list=PLMT6hOQ0XoJK--h_dnUiv6CVggb1_BgJQ
.
คลิป พาเข้าห้องน้ำบนเครื่องบิน ภายใน 2 นาที >> https://www.youtube.com/watch?v=QNjDALQ9024&list=PLMT6hOQ0XoJK--h_dnUiv6CVggb1_BgJQ&index=3
.
วันนี้เราขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สนะคะ เวลา 14:40 น.
ก่อนอื่นคุณต้องดูก่อนว่าจองไปกับสายการบินอะไร และเครื่องออกเวลากี่โมง
ต้องมาถึงสนามบินก่อนเครื่องออกอย่างน้อย 1.30 ชั่วโมงนะคะ
เรานั่งแอร์พอร์ตลิ้งค์มาค่ะ แล้วก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 4 ค่ะ จะเป็นส่วนของผู้โดยสารขาออก
ถ้าใครนั่งแท็กซี่มา คนขับก็จะมาส่งที่ชั้น 4 ค่ะ ส่วนไฟลท์ในประเทศ เคาท์เตอร์เช็คอินจะอยู่แถวๆประตู 2
(จะมี 10 ประตูค่ะ บางทีคนขับจะถามว่าลงประตูไหน ถ้าไฟลท์ในประเทศก็บอกไปเลยว่าลงประตู 2
ถามว่าลงประตู 10 ได้มั้ย ก็ได้เช่นกันค่ะ แต่เราจะเดิยย้อนกลับมาไกลมาก)
มาถึงชั้น 4แล้วค่ะ คนเบาบางมาก >< มาถึงประมาณบ่ายโมงค่ะ
จากนั้นมองหาไฟลท์บอร์ดค่ะ จะเป็นหน้าจอแสดงเที่ยวบินต่างๆค่ะ
เราต้องไปดูว่าเคาท์เตอร์สายการบินที่เราใช้บริการ ต้องไปเช็คอินที่ ROW (แถว)ไหน
ไฟลท์บอร์ดหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
เดินมาดูใกล้ๆ จะมีชื่อสายการบิน เวลาที่เครื่องออก
อย่างของเราบินบางกอกแอร์เวย์สไปเชียงใหม่เวลา 14:40 น. เช็คอินที่ ROW F ค่ะ
status (สถานะ) ตอนนี้เปิดให้เช็คอินได้แล้วค่ะ เดินไป ROW F กันค่ะ
ROW F อยู่นี่
สาเหตุที่ต้องมาก่อนตั้งชั่วโมงครึ่ง เพราะจะมีเวลาปิดเคาท์เตอร์เช็คอินด้วยค่ะ
อย่างของบางกอกแอร์เวย์เคาท์เตอร์ปิดก่อนเครื่องออก 40 นาทีค่ะ
(อย่างถ้าเครื่องออก 14:40 น. แต่เรามาถึง 14:10 น. แปลว่าเคาท์เตอร์ปิดไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้วนะคะ
ทางสายการบินก็แจ้งไว้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นขึ้นเครื่องบิน เวลาเป็นสิ่งสำคัญค่ะ )
เดินไปเช็คอินค่ะ เข้าไปต่อแถว พอถึงคิวเราก็ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ค่ะ
(ถ้าไปต่างประเทศจะใช้พาสปอร์ตเท่านั้น)
ถ้าใครมีกระเป๋าใบใหญ่ก็โหลดได้ค่ะ ตามน้ำหนักที่สายการบินกำหนด ถ้าน้ำหนักเกินก็ต้องจ่ายเพิ่ม
อย่างของสายนี้ ช่วงนี้โหลดกระเป๋าฟรี 40 กิโลค่ะ ของเรามีแค่กระเป๋าเป้ เลยไม่ได้โหลดค่ะ
แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้ Boarding pass (บัตรผ่านขึ้นเครื่อง) มาให้เราค่ะ
หน้าตาเป็นแบบนี้ มาดูกันว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง
Flight : หมายเลขเที่ยวบินค่ะ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ2ตัวแรกคือ รหัสสายการบิน
ส่วนตัวเลข คือหมายเลขเที่ยวบินค่ะ
หลายคนอาจจะได้ยินบ่อยๆ เช่น TG อันนี้รหัสของการบินไทยค่ะ
ส่วนของบางกอกคือ PG ค่ะ
Boarding time : เวลาที่เจ้าหน้าที่จะเรียกขึ้นเครื่อง
Gate : ประตูขึ้นเครื่อง ต้องไปรอขึ้นเครื่องให้ถูกGateด้วยนะคะ
Seat : ที่นั่งของเรา
Name : ชื่อของเรา
From : บินจากเมืองไหน
To : บินไปลงที่เมืองไหน
Date : วันที่เดินทาง
Departure time : เวลาที่เครื่องออก (take off)
ได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้วเราจะเข้าไปในเกท(Gate)กันค่ะ
ทางเข้าจะอยู่ฝั่งซ้ายมือสุดของอาคารผู้โดยสารค่ะ ตรงนี้เลย
จากตรงนี้ก็สแกนคิวอาร์โค้ด แล้วก็ไปกรอกข้อมูลต่อด้านในได้ค่ะ
แสดงบัตรประชาชนกับ boarding pass ให้เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ
พอผ่านเจ้าหน้าที่มายังไม่ได้สแกนกระเป๋าตรงนี้ค่ะ เมื่อก่อนก็คือสแกนตรงนี้
แต่ย้ายแล้วเพื่อลดความแออัด
เดินลงบันได้เลื่อนไปค่ะ
ยาวไป ยาวไป
ลงบันไดเลื่อนมาแล้ว เลี้ยวซ้ายนะคะ ยาวไปค่ะ
เดินจนมาถึงสามแยกค่ะ Gate A1-9 เลี้ยวซ้ายนะคะ
Gate B1-9 เดินตรงเยื้องๆไปอีกค่ะ
วันนี้เราขึ้นเครื่องเกท A2 ค่ะ เลี้ยวซ้ายเลย
ถ้างงหรือต้องการความช่วยเหลือจะมีเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่ตรงนี้ด้วยนะคะ ^^
เดินตรงมาเรื่อยๆค่ะ ก็จะเจอป้ายบอกให้ไปจุดตรวจค้น (จุดที่ต้องสแกนกระเป๋า)
(แต่เราบินกับบางกอกแอร์เวย์ส ทางสายการบินมีห้องรับรองให้เข้าไปทานอาหาร นั่งพักผ่อนได้ค่ะ
เราเลยแวะไปทานอาหารก่อนค่ะ แล้วค่อยเข้าไปในเกท)
ทานเสร็จก็เดินกลับมาที่เดิม ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็จะเจอจุดตรวจค้นค่ะ
ก่อนเข้าไปก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจ boarding pass อีกที อย่างวันที่เราบิน เจอผู้ชายคนนึง
เค้าต้องไปขึ้นเครื่องที่เกท B5ค่ะ ซึ่งมันคนละฝั่งเลย เจ้าหน้าที่ก็บอกให้เค้าไปเช็คเกทมาใหม่
อย่างที่บอกค่ะ ขึ้นเครื่องบินต้องเผื่อเวลา นี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมเราต้องมาก่อนเวลาเครื่องออกเป็นชั่วโมง
ส่วนของติดตัว สาวๆไปเที่ยวทะเล ระวังพวกของเหลวต่างๆนะคะ น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ต่างๆ
ของเหลวพวกนี้ถ้าเกิน 100 ml. จะไม่อนุญาตให้ติดตัวขึ้นเครื่องค่ะ ต้องทิ้ง
วิธีดูก็คือดูที่ข้างขวดเลยค่ะ อย่างถ้าข้างขวดเขียนว่า 120 ml. แปลว่า เกิน อันนี้ต้องทิ้งค่ะ
ถ้ามีโน๊ตบุค โทรศัพท์ก็เอาออกจากตัวค่ะ ใส่ตะกร้าแล้วก็เดินผ่านเครื่องสแกนค่ะ
สแกนเสร็จเดินไปเกทกันค่ะ เดินหาเลย A2
ถึงแล้ว ไปเชียงใหม่ ไม่ผิดแน่นอน
ถ้ามาแล้ว หน้าจอไม่ตรงกับในบอร์ดดิ้งพาสก็ต้องไปเช็คบนไฟลท์บอร์ดนะคะ
เพราะบางทีก็มีการเปลี่ยนเกทค่ะ
เดินลงไปตามทางเลยค่ะ แอบถามเจ้าหน้าที่มาว่าไฟลท์นี้ผู้โดยสารเยอะมั้ย
เจ้าหน้าที่บอกว่า จองมาประมาณ 80 คนค่ะ คนก็จะบางตาแบบนี้ค่ะ
ปกติไฟลท์เชียงใหม่นี่ ขายดีค่ะ ไม่ว่าจะสายการบินไหน คนแน่นตลอด
Social Distancing
เรียกขึ้นเครื่องแล้วค่ะ ไปค่ะ
ยื่น boarding pass กับบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ค่ะ แล้วก็เดินมาตามทางเลย
บนทางเดินแห่งความฝันนี้ ..
อย่าเพิ่งเก็บ boarding pass กับบัตรประชาชนนะคะ เข้ามาจะเจอลูกเรือรอต้อนรับอยู่หน้าประตูเครื่อง
ลูกเรือจะทำการเช็คอีกทีว่าเราขึ้นเครื่องไม่ผิดลำ
แล้วก็เดินหาที่นั่งค่ะ ถ้าไม่ทราบก็ถามลูกเรือค่ะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอายนะคะ
ลูกเรือเค้ามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสารอยู่แล้วค่ะ ^^
ได้ที่นั่งแล้วรัดเข็มขัดด้วยนะคะ วิธีใส่ก็เหมือนกับเข็มขัดบนรถยนต์เลยค่ะ แค่เสียบหัวทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน
(แต่เวลาปลดเข็มขัดต้องยกหัวเข็มขัดขึ้นนะคะ มันถึงจะปลดออก ^^ ต่างจากบนรถยนต์ค่ะ)
ส่วนกระเป๋าก็เก็บไว้บนที่เก็บสัมภาระด้านบนศีรษะ ตามรูปเลยค่ะ
ถ้าใครไม่อยากไว้ด้านบน เพราะมีของมีค่า อยากเอาไว้ติดตัว
ก็สามารถสอดกระเป๋าไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าแบบนี้ค่ะ
ส่วนกระเป๋าด้านหน้าที่นั่งจะมี safety card ค่ะ กับถุงกระดาษเล็กๆ เผื่อเมาเครื่อง แล้วอยากอาเจียน
ระหว่างนี้ลูกเรือจะสาธิตการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยบนเครื่องก่อนที่เครื่องจะเทคออฟนะคะ
รับชมไปค่ะ เพลินๆ ^^
จากนั้นก็เทคออฟค่ะ bye bye BKK มองเห็นสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ^^
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลายสายการบินจะมีการบริการ อาหารเครื่องดื่ม ของว่างต่างๆ แต่เนื่องจากโควิดก็เลย
งดบริการอาหารเครื่องดื่มบนเที่ยวบินค่ะ และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วยนะคะ
****ตอนนี้ทาง กพท. (สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย)
ได้อนุญาตให้มีการจำหน่าย/ บริการอาหารเครื่องดื่ม บนเครื่องบินได้
โดยผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น เวลารับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
มีผลตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
นั่งดูวิวไปค่ะ ประมาณชั่วโมงก็ใกล้จะถึงเชียงใหม่แล้ว ^^
ถึงเชียงใหม่แล้วค่ะ
พอเครื่องจอดสนิท ทางลูกเรือก็จะประกาศให้ออกเป็นแถวๆค่ะ
เช่น แถว1-5 หยิบสัมภาระแล้วเดินออกจากตัวเครื่องก่อน เพื่อลดความแออัดค่ะ
เดินตามคนข้างหน้าไปเลยค่ะ
จนมาเจอป้ายรับกระเป๋า เดินลงบันไดเลื่อนไปเลยค่ะ
ถ้าใครโหลดกระเป๋าจะมีหน้าจอบอกค่ะว่า เราต้องไปรับกระเป๋าที่สายพาน (Belt) หมายเลขอะไรค่ะ
อย่างไฟลท์นี้ ต้องไปรับกระเป๋าที่ Belt 2
หน้าตาสายพานเป็นแบบนี้ค่ะ ถ้าเราเห็นกระเป๋าเรา ก็ไปลากออกมาได้เลยค่ะ
วันนี้เราไม่ได้โหลดกระเป๋า ก็เดินออกมาได้เลย ^^
ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ? สำหรับมือใหม่ ^^
สรุปขั้นตอนขึ้นเครื่องบินสำหรับมือใหม่2020คร่าวๆ
ไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 1.30 ชั่วโมง >> มองหาเคาท์เตอร์เช็คอิน >> ยื่นบัตรประชาชน
>> เดินไปฝั่งขาออก >> สแกนคิวอาร์โค้ด ลงทะเบียน >> ผ่านเข้ามาด้านใน มองหาเกทตัวเอง ฝั่ง AหรือB
>>เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปสแกนสัมภาระและร่างกาย >> เดินไปที่เกท >> รอเรียกขึ้นเครื่อง
>> ขึ้นเครื่องแล้วรัดเข็มขัด เก็บสัมภาระ >> นั่งหลับ ฟังเพลง >> เครื่องลง >> หยิบสัมภาระ เดินตามคนข้างหน้ามาเรื่อยๆจนเจอ สายพานรับกระเป๋า
>> ถ้าไม่ได้โหลดก็เดิน ออกมาเลยจ้า ^^
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่นะคะ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า ^^
รีวิว ขาเข้า สุวรรณภูมิ สำหรับมือใหม่ ll พร้อมพาเข้าเมืองโดยแอร์พอร์ตลิ้งค์ >> https://www.youtube.com/watch?v=p14L-3xtkg8&list=PLMT6hOQ0XoJK--h_dnUiv6CVggb1_BgJQ&index=2
6 วิธีฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง จนได้ไปอเมริกาแบบฟรีๆ >> https://www.youtube.com/watch?v=EOFnLGlMmOw&list=PLMT6hOQ0XoJKhrmjS3SjKZBqFPEAZSbrF
E-book บันทึก 239 วันเมื่อฉันเป็นลูกเรือสำราญ >> https://www.mebmarket.com/ebook-127839-บันทึก-239-วัน-เมื่อฉันเป็นลูกเรือสำราญ
Facebook : https://www.facebook.com/Journeyofarrow